1) แร่ยิปซัม
ชื่อแร่ มาจากภาษากรีก เป็นชื่อแร่โดยเฉพาะพวกแร่ที่เกี่ยวกับปูน
-แร่ยิปซัมชนิด Satin Spar มีเนื้อเป็นเสี้ยนๆ มีความวาวคล้ายใยไหม
-แร่ยิปซัมชนิด Selenite มีเนื้อเป็นแผ่นบางโปร่งใส ไม่มีสี
-แร่ยิปซัมชนิด Alabaster มีเนื้อเป็นมวลเมล็ดอัดแน่น สีขาว
คุณสมบัติทางฟิสิกส์ – รูปผลึกระบบโมโนคลินิก ผลึกมีลักษณะเป็นแท่งแบนปลายแหลมทั้งสองข้าง อาจเกิดเป็นรูปผลึกแผด มีรอยแยกแนวเรียบ 3 แนวต่างกัน แต่ที่ชัดเจนมีแนวเดียวจนทำให้แตกเป็นแผ่นๆ รอยแตกอีกแนวอาจเป็นรูปเว้าโค้งแบบก้นหอย หรือแตกเป็นเสี้ยนๆ ความแข็งตามมาตรของโมร์(Moh's scale) เท่ากับ 2 เป็นแร่ตัวหนึ่งในมาตรของโมร์ ถ.พ. 2.30 ความวาวคล้ายแก้ว หรือวาวคล้ายมุก คล้ายไหม ไม่มีสี หรือสีขาว เทา หรือมีสีเหลือง แดง น้ำตาลอ่อนจนถึงน้ำตาลแก่ เนื้อโปร่งใสจนถึงโปร่งแสง
คุณสมบัติทางเคมี - สูตรเคมี CaSO4.2H2O มี CaO 32.6 % SO3 46.5 % มี น้ำ (H2O) 26.9% หลอมตัวขั้นที่ 3 ละลายในกรดเกลือเจือจางร้อน
ลักษณะเด่นและวิธีการตรวจ – อ่อนเล็บขูดเข้าเป็นรอยเนื่องจากเล็บมีความแข็งประมาณ 2.5 มีรอยแยกเรียบสมบูรณ์ 3 ทาง ละลายในกรดเกลือเจือจางที่ร้อน
การกำเนิด –เกิดจากการตกตะกอนของน้ำทะเล เนื่องจากน้ำทะเลระเหยตัวออกไปจึงมีการสะสมตัวเป็นชั้นๆเหมือนเกลือหิน นอกจากนี้ยังพบเกิดอยู่ร่วมกับแร่ที่เกิดจากน้ำร้อนอื่นๆ เช่นในสายแร่ทองคำ สังกะสี ตะกั่ว และทองแดงเป็นต้น
แหล่งที่พบ
ในประเทศไทยพบและมีการทำเหมืองที่จังหวัดพิจิตร อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ อำเภอทุ่งใหญ่ และอำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช อำเภอนาสารและอำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่พบแหล่งแต่ยังไม่มีการผลิตพบที่จังหวัดเลย ปริมาณสำรองแร่ยิปซัมในประเทศไทย มีทั้งหมดประมาณ 200 ล้านตัน
- ต่างประเทศพบมากที่ประเทศ แคนนาดา สหรัฐอเมริกา จีน อิหร่าน เม็กซิโก ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย อินเดีย อิตาลี โปแลนอียิป สเปน และสหราชอาณาจักร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น