ดีบุกเป็นโลหะสีขาวเป็นเงาคล้ายเงิน มีความถ่วงจำเพาะ 7.3 มีจุดหลอมเหลว 232 0C เป็นโลหะเนื้ออ่อน แต่เหนียว ที่อุณหภูมิ 100 0C สามารถรีดเป็นเส้นได้ แต่ถ้าที่อุณหภูมิ 200 0C ดีบุกจะเปราะ ทุบแตกง่าย ดีบุกมีอันยรูปหลายแบบ เช่น ดีบุกเทา ดีบุกรอมบิก และดีบุกสีขาว
แหล่งที่พบ
พบในแร่แคสซิเทอร์ไรด์ (SnO2) พบมากทางภาคใต้และยังพบในภาคกลาง และภาคเหนือ แร่ดีบุกพบปนอยู่กับกากแร่อื่น ๆ เช่น อินเมไนต์ เชอร์ดอน โมนาไซด์ โคลัมไบต์ และ ซิไลต์
การถลุงดีบุก
สินแร่ดีบุก (SnO2 ปนกับทราย SiO2 เป็นสารปนเปื้อน) ผสมกับถ่านโค้ก และหินปูนด้วย อัตราส่วน 20 : 4 : 5 โดยมวล ใส่ในเตาถลุงแบบนอน โดยใช้น้ำมันเตา หรือใช้กระแสไฟฟ้าเป็นแหล่งให้ความร้อน
ปฏิกิริยาการแยกดีบุกออกจากแร่ ดังนี้
C (s) + O2 (g) - CO2 (g)
C (s) + CO2 (g) - 2CO (g)
2CO (g) + SnO2 (s) - Sn (l) + 2CO2 (g)
ปฏิกิริยาการแยกสารปนเปื้อน (SiO2) ด้วยหินปูนดังนี้
CaCO3 (s) - CaO (s) + CO2 (g)
CaO (s) + SiO2 (l) - CaSiO3 (l)
ดีบุกที่ถลุงได้ ต้องนำไปทำให้บริสุทธิ์ด้วยกระบวนการ Electrorefining สำหรับขี้ตะกรันที่ได้ พบว่ามีดีบุกปนอยู่อีกมาก สามารถนำไปถลุงเพื่อแยกดีบุกออกได้อีก
การนำดีบุกไปใช้ประโยชน์
ดีบุกผสมกับตะกั่ว ทำตะกั่วบัดกรี ดีบุกฉาบแผ่นเหล็กทำกระป๋องบรรจุอาหาร ดีบุกผสมกับโลหะอื่น ๆ เป็นโลหะผสม (Alloy) เช่น ผสมกับกับทองแดงเป็นทองสัมฤทธิ์ ผสมกับทองแดงและพลวงใช้เป็นโลหะผสมทำภาชนะต่าง ๆ สารประกอบดีบุก เช่น SnCl4 .5H2O ใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องเคลือบ เครื่องแก้ว ย้อมสีไหม กระดาษพิมพ์ที่ไวต่อแสง เช่น กระดาษพิมพ์เขียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น